ชวนเพื่อนลุยวังเวียง 3วัน2คืน สัมผัสไอหมอกด้วยเงิน 2000บาท ฉบับเที่ยวตามได้ 🍃
วังเวียงเมืองที่โอบล้อมไปด้วยภูเขา ใครหลายคนต่างตกหลุมรักที่นี่ มาซ้ำเเล้วซ้ำเล่า เพราะธรรมชาติ ความสนุก ผู้คน เมือง วังเวียงเป็นเมืองที่มีรสชาติครบเเทบจะทุกรูปแบบ สโลว์ไลฟ์ แอดเวนเจอร์ ปาร์ตี้ เราสามารถสนองความต้องการทั้งหมดได้ที่นี่
ในเรื่องของการเดินทางนั้นก็ง่ายมากไม่ต้องห่วง ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งแบคเเพคเกอร์แล้วอะไรก็ง่ายไปหมด ทริปนี้เราจะเช่าทั้งมอไซค์ทั้งวันเดย์ทริป สนุกครบเครื่อง ภาษาที่ใช้ก็ไทยนี้แหละ คนลาวเขาสื่อสารกับเราได้ อีกอย่างนึงจะบอกเพื่อนๆไว้เกาหลีและฝรั่งเยอะมาก ไม่ว่าจะชายหรือหญิงงานดีทุกคน คือดี
—— วิธีกาารเดินทาง ——
เราเริ่มการเดินทางจากจังหวัดหนองคายค่ะ
DAY 1
6:00 ด่านตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย
1. นั่งรถบัสข้ามไปลาว
2. นั่งรถบัสลาวไปเวียงจันทร์ ลงที่ตลาดเช้า
3. นั่งรถจากตลาดเช้าไปคิวรถสายเหนือ
4. นั่งรถคิวรถสายเหนือไปวังเวียง
(ง่ายมากๆ เหมือนต่อรถสองเเถว)
13:00 ถึงวังเวียง เชคอินที่พัก
Champalao Bungalows
13.30 เดินหาเช่ามอเตอร์ไซค์ สำรวจเมือง
กินข้าวเที่ยง
14:30 ขับมอไซค์ไปบูลลากูน ใช้เวลาประมาณ
15นาที เล่นน้ำประมาณ 2ชั่วโมง
16:30 ขับมอไซค์ต่อไปที่ Nam Xay Viewpointใช้เวลา
10นาที ใช้เวลาเดินขึ้นประมาณ 30นาที
18:30 กลับที่พัก กินหมูกระทะ เตรียมตัวไป
ซากุระบาร์
DAY 2 ซื้อ One day trip
9:00 รถจะมารับหน้าที่พักไป ลอดถ้ำน้ำ,ถ้ำช้าง
12:30 พายคายัค 5กิโลเมตร
15:00 ส่งเราที่โรงเเรม หลังจากนี้ผมให้เป็นเวลา
พักผ่อน ชิวๆ จะไปนั่งคาเฟ่ นอนพักฯลฯ
18:00 กินข้าวเย็น หาร้านนั่งชิว ริมแม่น้ำซอง
DAY 3
10:30 รถมารับหน้าที่พัก เดินทางกลับเวียงจันทร์
15:00 ถึงตลาดเช้าเวียงจันทร์ นั่งรถเมย์ต่อไปที่ด่าน
ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย
16.00 ถึงหนองคาย
—— แนะนำ ——
– ตัวเมืองวังเวียงไม่ใหญ่มาก สามารถเดินได้
– ขับมอไซค์ไม่เป็นก็สามารถเที่ยวได้โดยการไป one day trip
– บูลลากูนตอนนี้มี 5ที่ ชอบความสนุกให้ไปที่1 ชอบความเงียบ
สงบแนะนำ2-5
– ผาเงินตอนนี้มี เล็ก กลาง ใหญ่ สำหรับผมเล็กสวยที่สุด(อัน
ดั้งเดิม) ความเหนื่อยขึ้นไปตามลำดับ ใหญ่เหนื่อยมาก ใช้
เวลาเดิน 1ชั่วโมงบวก
– ปัจจุบันผาที่ฮิตที่สุดคือ Nam Xay Viewpoint สวยที่สุดและเดินง่ายที่สุด
– ฤดูฝนวังเวียงจะสวยที่สุด จะเห็นความเขียวของภูเขา แต่ต้อง
เช็คสภาพอากาศด้วยนะคะ
– ค่าข้าวค่อนข้างเเพง เฉลี่ยมื้อละ 100ไปเลย
– ซากุระบาร์ จะมีฟรีดริ้งถึง 2ทุ่ม วอดก้าลาวผสมน้ำอัดลม
– ขึ้นบอลลูนมีค่าใช้จ่ายประมาณ 3000บาท
– สามารถหาซื้อซิมได้ตามร้านค้าทั่วไป ให้ร้านจัดการให้เลย
– แลกเงินเรทปกติจะอยู่ที่ 1บาทต่อ300กีบ
– จ่ายเงินไทยได้เเต่เลทจะเสียเปรียบหน่อยๆ
—— สรุปค่าใช้จ่าย ——
ค่าเหยียบแผ่นดินลาว 12000กีบ
ค่ารถไปกลับหนองคาย-วังเวียง 107000กีบ
ที่พัก2คืน 150000กีบ/2คน 75000กีบ
ค่าเช่ามอไซค์วันเเรก 40000กีบ/2คน 20000กีบ
ค่าเข้าบูลลากูน 10000กีบ
ค่าเข้าผาเงิน 10000กีบ
วันเดย์ทริป 90000กีบ
ค่าซิม 20000กีบ
ค่าข้าวมื้อละ30000กีบ 150000กีบ
จิปาถะ 106000กีบ
รวม(ราคานี้ไม่รวมเบียร์) 600000กีบ
ได้เรทมา1บาทต่อ300กีบ 600000/300กีบ
รวม 2000 บาท
ปล.ตอนนี้ที่พักจำปาลาว ปิดเเล้วนะคะ เเต่ยังมีอีกหลายที่ที่ราคาประมาณนี้
เริ่มต้นกันที่จุดข้ามไปลาว ด่านตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย ต้องใช้ Passport ในการข้ามเมืองน้า เขาจะมีใบให้กรอก อย่าลืมเตรียมปากกาไป เพราะว่าไม่มีให้ กรอกเสร็จก็เดินเข้าจุดตรวจ พอผ่านก็แลกเงิน ซื้อซิมให้เรียบร้อย
จากนั้นวิธีการเดินทางไปวังเวียงจะมีหลายแบบ กรณีไปคนเดียว
1. นั่งรถบัสข้ามไปลาว
2. นั่งรถบัสลาวไปเวียงจันทร์ ลงที่ตลาดเช้า
3. นั่งรถจากตลาดเช้าไปคิวรถสายเหนือ
4. นั่งรถคิวรถสายเหนือไปวังเวียง
หรือถ้าเอาสะดวกกว่านั้น เหมารถตู้ไปสะดวกกว่าค่ะ ถ้าไปหลายคนเที่ยวละ 3000 บาท นั่งได้ 12 คน
ประมาณบ่ายกว่าๆเราก็เดินทางมาถึงวังเวียง เช็คอินที่พัก Champalao Bungalows วิวภูเขากับไอหมอกจากระเบียงห้อง อันนี้คือห้องพักหลักร้อยวิวหลักล้านที่เเท้จริง
วันแรกเราเดินทางด้วยการเช่ามอเตอร์ไซค์ ราคาไม่ควรเกินคันละ 40000 กีบนะคะ ภาพที่เห็นคือวิวระหว่างทาง ภูเขาสุดอลังการกับหมอกขาวมันเป็นอะไรที่เข้ากันมาก อยากให้ทุกคนได้มาสัมผัส
จุดหมายเเรกคือ บลูลากูน 1 ค่าเข้า 10000 กีบ น้ำจากธรรมชาติสีฟ้าใส กับจุดกระโดดน้ำที่ต้องมาลอง มี2ชั้น เรียกได้ว่าใครที่มาวังเวียงไม่ควรพลาด
เราใช้เวลาตรงนี้เต็มที่ กินข้าวเล่นน้ำ จนพอใจ ก่อนที่ช่วงเย็นเราจะไป Nam Xai Viewpoint
ที่ตัดสินใจมาวังเวียงเพราะที่นี่เลย Nam Xai Viewpoint ใช้เวลาเดินประมาณ 30นาทีเท่านั้น วิวสุดอลังการภูเขาตั้งสูงโดนไอหมอกไหลมากระทบยอดเขา และจุดถ่ายรูปสุดฮิปมอเตอร์ไซค์เก่าๆ ที่ชาวบ้านช่วยกันยกขึ้นมา ตรงนี้เป็นอีกสถานที่ที่เราจะต้องกลับมาอีกเเน่นอน หลังจากนี้เราจะกลับไปอาบน้ำกินหมูกระทะและไปต่อกันที่ซากุระบาร์
อาหารเย็นมื้อเเรกของเรา หมูกระทะลาว หาได้ทั่วไปในวังเวียง ทุกอย่างเเทบจะไม่ต่างจากประเทศไทย เเต่มีทีเด็ดที่น้ำจิ้ม ฟิวคล้ายๆ น้ำจิ้บบาบีก้อน กลมกล่อมมาก บอกเลยว่าห้ามพลาด
มาต่อกันที่ ซากุระบาร์ บาร์ที่ดังที่สุดของที่นี่ มีเกมปิงปองสนุกๆให้เล่น ทีเด็ดของที่นี่ต้องบอกเลยว่าเกาหลีคืองานดีมาก ฮ่าๆๆ
เช้าวันที่ 2 ของเราในวังเวียง เติมพลังด้วยเเซนด์วิสที่หาได้ง่ายมีขายทั่ววังเวียง ต้องลองแล้วจะติดใจ
แนะนำจัดเต็มไปเลย 30,000กีบ ราคาจะขึ้นอยู่กับของที่เราใส่ อันนี้อร่อยจริงแนะนำๆๆ
วันนี้เราซื้อเป็น One Day Trip ไว้ค่ะ จะมีขายอยู่ทั่วไป เลือกกิจกรรมที่อยากทำได้ เราเลือกเป็นล่องห่วงยางกับพ่ายคายัคค่ะ เขาจะมารับเราที่ที่พักเลย นัดเวลาได้ แล้วก็จะไปส่งตรงจุดปล่อยห่วงยาง
ใช้เวลาล่องประมาณ 2 ชม ชิวๆเลย น้ำไหลเย็น ล่องไปชมวิวไป
จังหวะเจอน้ำไหลแรงๆคือมันมาก
แล้วเราก็มาพายคายัคต่อค่ะเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของวังเวียง พายคายัคไหลตามเเม่น้ำไปเรื่อยๆ มีให้เลือก 5กิโล 10กิโล
ระหว่างทางจะมีจุดเเวะริมน้ำอยู่เป็นพักๆ สำหรับคนที่พายไม่เป็นหรือกลัว เขาจะมีไกด์พายให้ ปลอดภัยหายห่วง วิวเเม่น้ำซองสุดอลังการ ถึงอากาศจะเย็นสบายเเต่บอกไว้เลยว่าแดดที่นี่เเรงไม่แพ้ไทยเลยครับ ฮ่าๆๆๆ เราเสร็จวันเดย์ทริปประมาณบ่ายสามโมง หลังจากนั้นเรากลับที่พัก นอนพักผ่อน ชมวิว ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์
คืนวันสุดท้ายที่วังเวียง เราไม่กินหมูกระทะและเข้าซากุระบาร์เเล้ว เราเลือกมานั่งชิวกันที่ริมเเม่น้ำซอง มีร้านค้ามากมายให้เลือก ดื่มด่ำบรรยากาศ เก็บเกี่ยวความสุขเอาไว้ ก่อนที่พรุ่งนี้เช้าจะเดินทางกลับไทย ไม่แปลกใจทำไมหลายคนเลือกให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทาง อยากให้ทุกคนมาลองสัมผัสด้วยตัวเองเเล้วจะหลงรักเหมือนที่เราหลงรัก
