🎒เป็นทริปที่ไปตามเพื่อนค่ะ และเป็นทริปแรกของการไป ตทป ด้วย ไปแบบงงๆ รู้ปุปปัปมาก ตอนแรกก็สงสัย 2 วัน ไปทำไรเนี้ย ไปเกาะล้านยังไปตั้งสามวัน 

🤣แต่พอไป เอออออ มันไปได้วะ คือปัจจุบันแอดเป็นนักศึกษานะคะ ยังเรียนอยู่ ถึงแม้หลายๆคนอาจจะคิดว่าไม่ได้เรียนแล้ว 555555 การไปเที่ยวในช่วงปี 3 ขึ้น ปี 4 มันก็จะยากนิดนึง ด้วยอุปสรรคทางเวลาและปัญหาสำคัญคือเงิน!!!!

💖แต่เดียวก่อนน เมื่อคุณลองอ่านรีวิวของเรา คุณจะรู้ได้ทันที ว่าการเที่ยวต่างประเทศในเวลา 2 วัน กับ เงิน 3000 มันเป็นไปได้ (น้ำเสียงเหมือนทีวีไดเร็ก 5555)

📌แพลนทริปคร่าวๆ

⭐️Day 1 
– เช็คอิน เอาของไปฝากที่พัก
– ไปกินติ่มซำ อร่อยจริง อร่อยกว่าทุกร้านในไทย
– ไปเดินขึ้นเขาดูวิว 
– ไปเดินช็อป ที่ causeway bay คล้ายๆสยามบ้านเรา
– ไปร้าน line store มีแต่ของน่ารักก 
– ไปตามล่าชาไข่มุกเจ้าดัง
– ไปกินไอติมรถแดง
– ไปตะลุยกินของกินย่าน mong kong
– ไปเดินงงในดงรองเท้า (คือทั้งซอยเป็นร้านร้องเท้าหมด มีทุกแบรน)

⭐️Day 2
– ไหว้พระขอพร วัดกังหันลม 
– ไปเดินเล่น ดูสตรีทอาร์ต ย่านเซ็นทรัล 
– กลับไปเดินช็อป mong kong อีกรอบ
– กลับที่พักไปเอากระเป๋าไปสนามบิน 
– กลับบ้าน

💰สรุปงบ 

  • ค่าบัตร AE เข้าเมืองเที่ยวละ 42.5$ ไปกลับ = 170 บาท
  • ค่าบัตร Octopus 150$ = 600 บาท (ได้คืน 200 ตอนเอามาคืน)
  • ค่าที่พัก 800 บาท
  • ค่าติ๋มซำมื้อแรก 923$ /12 = คนละ 310 บาท
  • ค่ากินที่ Causeway bay (40+50+10 = 105$) 420 บาท
  • ค่ากินที่ Mong Kok ประมาน 100$ หลายร้านจัดจำไม่ได้ = 400 บาท
  • ค่ากินมื้อเช้าวันที่สอง จำราคาไม่ได้ น่าจะประมาน 300 บาท
  • ค่ากินวันที่สองข้าวหนาเป็ด 50$ = 200 บาท

ปล.สกุลเงิน HK$ น้า แอดคูณ 4 ให้มันกลมๆ 🎊

รวม 3000 บาท นี่ขนาดกินแบบหนักมากกกก หนักสุดๆ

📑การเตรียมการก่อนที่จะไป

  1. จะต้องมี Passport ค่ะ สำคัญสุด แอดไปทำมาที่ MRT คลองเตย ทำง่ายมากเวอร์ กำตังไป 1000 บาท สามวันได้ เขาจะส่งจดหมายมา
  2. จะต้องมีตั๋วเครื่องบิน เพราะแน่นอน รถทัวร์ รถตู้ รถไฟ ไปไม่ถึงนะคะ 55555 แอดจองกับแอร์เอเชีย ราคาจะประมาน 3000-5000 บาท ต่อคน ไปกลับ 
  3. จองที่พัก แนะนำให้จองใกล้ๆสถานีรถไฟฟ้าไว้ จะได้เที่ยวง่าย แอดพักที่ Geo Home Holiday Hotel ใกล้สถานี Mong Kok และ Prince Edward คนละ 800 กว่าบาทต่อคืน
  4. เตรียมชุดเตรียมพร็อบค่ะ แนะนำให้เช็คสภาพอากาศก่อนนะคะ แอดจัดเสื้อไปประนึงหนาวมาก ผลสรุปคือ ร้อนแบบ โอ้ยยยย ไม่ไหวล้าววว แต่ก็ต้องอดทนเพื่อรูปที่สวยงาม
  5. เตรียมแลกเงินไปช็อป ถ้าถามว่าไปฮ่องกงซื้ออะไรดี ตอบได้คำเดียวว่า รองเท้า ถูกมาก ถูกกว่าไทยสองพันได้ แล้วก็พวกของแบรนทั้งหลายทั้งแหล่ ถูก นอกนั้น แพงแม่งทุกอย่าง แค่น้ำโค้กยังแก้วเป็นร้อย ต้องใช้ความอดทนสูงมากค่ะ

แล้วก็เตรียมโหลดแผนที่ MTR ไว้เลย ช่วยได้เยอะมาก

ตาม Link นี้ >>>  http://www.mtr.com.hk/en/customer/services/system_map.html

ย่านต่างๆในฮ่องกง

  • Causeway Bay > ย่านฮิปของวัยรุ่นฮ่องกง มีห้างสรรพสินค้าเยอะมาก คล้ายๆสยามบ้านเรา
  • Mong Kok > ใครอยากซื้อรองเท้าต้องมาย่านนี้ มี street food ด้วย เครื่องสำอาง ของใช้ ของกิน
  • Central > มีถนน Street Art ให้ถ่ายรูปชิคๆ

พร้อมแล้วก็ไปดูรีวิวกันเลยยย

ตื่นเช้าด้วยความตื่นเต้น แทบจะไม่ได้นอน  เราไปไฟลท์เช้าเลย 06:30 เท่ากับต้องไปถึงดอนเมือง ตี 4 (ควรถึงก่อน 2 ชั่วโมง ซึ่งแอดไม่เคยทำได้)

เราไปกับสายการบินแอร์เอเชีย ไฟลท์ FD 508  ไปถึงที่โน้น 10:15 ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง หลับไป ตื่นมาถึงเลยย (เวลาของที่โน้นจะเร็วกว่าเรา 1 ชม นะคะ)

เมื่อมาถึง เตรียมเอกสารใบขาเข้า ตม ให้เรียบร้อย พอผ่านก็มารับกระเป๋า

จุดหมายแรกที่เราจะไปคือเอาของไปเก็บที่ห้องพัก ที่เราได้จองไว้ อยู่สถานี Mong Kok

ทีนี้เราก็มาหาวิธีออกจากสนามบินกัน ให้หา Counter แบบในรูปเพื่อไปซื้อบัตร AE

AE จะเป็นรถไฟสายด่วน Airport Express (คล้ายๆแอร์พอทลิงค์บ้านเรา ที่ต้องนั่งไปต่อ รถไฟฟ้าไรงี้) 

ให้นั่งไปลง Tsing Yi – ค่าโดยสารต่อคน 60HK$ แนะนำถ้าไปหลายคนให้ซื้อ ตั๋วเป็นกรุ๊ป แอดซื้อ group 4  170HK$ ตกคนละ 42.5HK$ (มี Group 2,3,4)

ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.talontiew.com/hong-kong-airport-to-city/

พอมาถึง Tsing Yi เราก็มาซื้อบัตรอีกใบ เป็นบัตร Octopus คล้ายๆแรบบิตบ้านเรา ใช้แทนเงินสด 150HK$  มัดจำ 50 ใช้ได้ 100 ตอนมาแลกคืนได้มัดจำคืนด้วย 

บัตร Octopus  ของบ้านเขาคือดีมาก ใช้แทนเงินสดได้จริงๆ บัตรเดียวอยู่ ใช้ได้ตั้งแต่ ขึ้นรถไฟ MTR, รถราง ไปจนถึงรถเมล์ สามารถใช้ซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ตต่าง ๆ ร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 และร้านอาหารฟาสฟู๊ด

จากนั้นก็นั่ง MTR ต่อไปให้ถึง สถานี  Mong Kok (Tsing Yi > Lai King > Monk Kok)

และนี่คือที่พักของเรา Geo Home Holiday Hotel  เล็กจนตกใจ แต่ก็เอาหนะ นอนแปปเดียว เก็บตังไว้ช็อป 

วิธีการมาจากสถานีให้จับ GPS แล้วเดินมานะคะ มาไม่ยาก ขึ้นมาชั้น 9 ก็จะเจอ เจ้าของพูดภาษาไทยได้นิดหน่อย แถมช่วยวางแผนที่เที่ยวด้วยน่ารักมาก

📍Location : https://goo.gl/maps/DLeErRmDfdv

เก็บกระเป๋าเรียบร้อยได้เวลาลุยฮ่องกง เจ้าของที่พักแนะนำมาว่า มีติ๋มซำตรงข้ามที่พักอร่อย ไปค่ะ ต้องไปโดนมาฮ่องกงทั้งทีห้ามพลาดของเด็ด

ชื่อร้านว่า Very Good Joyful Banquet อยู่ชั้น 5 ในห้าง Pionee บรรยากาศภายใน เหมือนมางานแต่งเพื่อนที่ฮ่องกง 😂 และทุกคนคือญาติที่มาร่วมแสดงความยินดี 🎉

📍Location : https://goo.gl/maps/Kup2FCfH7oC2

ในการสั่งมันก็จะยากๆหน่อย รูปก็ไม่มีให้ดู ใช้วิธีจิ้มๆชี้ๆ สุ่มดวงเอา 

  • ขนมจีบอร่อยมาก มากแบบมากกกกก มากกว่าทุกร้านที่เคยกินมาในไทย กุ้งอย่างแน่น
  • ไอผักก็แบบ นุ่มจัดเลย อร่อยๆ ปกติบ้านเราจะกรอบๆแข็งๆอันนี้นุ่มเฉย เป็นจานที่แพงที่สุดในโต๊ะด้วย
  • ส่วนไอแผ่นขาวๆ คือไรไม่รู้ เฉยๆจืด
  • ซาลาเปาเราไม่ได้กิน แต่พี่เราบอกอร่อย
  • ปอเปี๊ยะ ก็อร่อยมาจานแรกเลย หมดไปแย้ว ไม่ได้ถ่ายรูป

แอบเห็นโต๊ะข้างๆกินบะหมี่ แต่ไม่รู้จะสั่งยังไง 5555 ดูน่ากิน ใครไปอย่าลืมชิมมาบอกด้วย

💰ค่าเสียหาย 923HK$  หรือ 3000 ไทย!!!! เราไปกัน 12 คน ตกคนละ 300 กว่าบาท 

กินอิ่มแล้ว มีแรงเดิน ต่อไปเราจะไปขึ้นเขาดูจุดชมวิวกันน  จากห้าง ให้เดินไปสถานี Prince edward นั่งไปลง   Admiralty แล้วต่อสายสีฟ้าไปลง Causeway bay 

Causeway bay จะฟิวๆ สยามบ้านเรา เดียวขึ้นเขาเสร็จจะกลับมาเดินช็อปป แปะไว้ก่อน

จากนั้นเราก็ไปเราขึ้นรถเมย์ สาย 25 กันค่ะ ระหว่างรอรถสักหนึ่งแชะ นี่คือโฉมหน้าผู้ร่วมชะตากรรมกับเรา5555

ให้นั่งสาย 25 จนสุดสาย ลงที่สถานี Braemar Hill วิธีการจ่ายตัง ก็เอาบัตร Octopus แตะไปก่อนขึ้น 

ก่อนขึ้นพี่ที่ไปด้วย บอกว่าวิวบนนั้นสวยมาก เดินแค่ 400 เมตรก็ถึงแล้ว เราก็เอาวะะ ไหนขอดูวิวบนเขาฮ่องกงหน่อย จะสวยขนาดไหน

เดินมาสักพัก เอาเหว่ยๆๆ เริ่มเห็นแววความสวย แต่มันคงต้องไปสูงกว่านี้ ยังไม่เหมือนในรูปที่พี่เขาให้ดู มีทางแยกสองทาง ป้ายก็ไม่มี เราตัดสินใจไปทางซ้ายกัน

เดินไปเรื่อยๆๆๆๆๆ เรื่อยๆๆๆๆๆ ก็ยังไม่เห็นปลายทาง ระยะทางก็ไกลขึ้นเรื่อยๆๆๆๆๆๆๆ น่าจะเป็นโลแล้วว เริ่มไม่ไหว เลยตัดสินใจถามคนที่เขาวิ่งๆสวนมา (คือจะมีคนวิ่งสวนลงมาเยอะมากเหมือนมาออกกำลังกายกัน) 

เอารูปให้เขาดู บอกว่าเราจะไปตรงนี้จะต้องไปทางไหน เพราะมันมีทางแยกอีก

ได้ความมาว่า เราเดินเลยทางขึ้นเขามาไกลมากๆแล้ว จำไอแยกเมื่อกี้ได้ไหม คือมันต้องเลี้ยวขวาค่ะ 555555555 พีคคคคคคค 

เราก็เลยต้องตัดสินใจเดินกลับลงไปค่ะ กลับไปที่เดิม!!!!! คือไกลมาก มากแบบมากกกกกก เดินไปหอบไป พอมาถึงเลยส่งตัวแทนไปหาทางขึ้นเขาอีกรอบ คนอื่นๆก็นั่งพักรอที่ริมธารกัน ระหว่างรอ พระอาทิตย์กำลังจะตกแล้ว แสงกำลังสวย จัดไป 1 แชะ

และแล้วภารกิจก็สำเร็จ 

แต่!!! เห็นไหมว่าหายไปสอง 55555 แอดไม่ได้ขึ้นไป แงงง มีพี่ที่ไปด้วย อ่อนแอ ปวดท้องขึ้นมาเฉยเลยต้องลงก่อน 

วิธีการเดินคือ พอถึงแยกที่มีสะพาน มีลำธาร ให้ไปทางขวาค่ะ ไอทางเล็กๆนั่นแหละ ให้เดินลัดเลาะตามแม่น้ำขึ้นไป ถ้าเจอริบบิ้นผูกติดต้นไม้ แสดงว่ามาถูก 

ส่วนแอดก็นั่งรถเมย์สาย 25 (ขึ้นฝั่งเดิม) กลับมารอพี่ๆที่ Causeway bay

เสิร์ชข้อมูลหาที่เที่ยวแถวนี้ดู ได้ความมาว่า ย่านนี้จะคล้ายๆ สยามและสีลมบ้านเราผสมๆกัน  เป็นย่านฮิปๆของวัยรุ่นฮ่องกงเลยก็ว่าได้

เดินเขามาเหนื่อย หาไรกินสักหน่อย ร้านแบบนี้จะมีอยู่เยอะแถวๆนั้น เห็นมีคนยืนกินแล้วน่ากินดี เลยลองสักหน่อย ทำได้แค่ชี้ๆ เอาแบบนั้นๆ 555

รสชาติก็จะแบบ ฟิวๆมาม่าบ้านเรา แต่มีเหมือนเครื่องเทศไรสักอย่าง ก็อร่อยดีนะ ไอลูกๆนั้นก็อร่อย ประมาน 30HK$ | 120฿  แนะนำให้กินๆไป ไม่ต้องคิดเป็นเงินไทย นานๆมาที คิดไปแล้วจะหดหู่ 55555

สำหรับคนที่อยากมาช็อปเสื้อผ้า นาฬิกา กระเป๋า ของแบรนด์ต่างๆ ที่นี้ค่อนข้างมีครบ 

ต่อไปเราจะไปตามล่า ชาไข่มุกกัน google บอกอยู่ห้างนี้ Hysan Place เป็นห้างใหญ่ 11 ชั้น อารมเซ็นทรัลเวิลบ้านเรา มีทุกอย่าง  เคาน์เตอร์เครื่องสำอาง เสื้อผ้า รองเท้า line store มี apple strore ที่ใหญ่ที่สุดด้วย ไปๆเดียวพาไปดู

line store จะอยู่ชั้นสอง มีแต่ของน่ารัก น้องบราวนเต็มไปหมด ใจบาง กระเป๋าตังสั่น

ต่อไปก็ขึ้นไปชั้น  10 โซนร้านหนังสือ จะเจอร้านชาไข่มุก Tenren’s Tea” ชาจากไต้หวัน อยู่ คนต่อคิวเยอะมาก 

ซื้อมาลองมันสองแก้วเลย ไม่ใช่ไร สั่งไปเป็น จิ้มๆชี้ๆมา ได้ชาไข่มุกมาแก้ว อีกแก้วเหมือนชาผมไม้รวม อร่อยทั้งคู่ สองแก้ว 50HK$   อร่อยชื่นใจ 

ออกจากห้าง Hysan Place มาด้านหลัง จะมีซอยเล็กๆอยู่หลายซอย มองมาเห็นรถสีแดงจอดขายไอติมอยู่ เคยอ่านเจอว่ามันอร่อย เลยกดไปสัก 1 อัน รสชาติก็ทั่วไป ไม่ได้อร่อยจนว้าว 10HK$

ต่อไปเราจะไปเดิน Mong Kok กันต่อ ที่นี้มีรองเท้าขายเยอะมากกกกกกก แล้วก็มีของกินอร่อยๆเพียบเลย ใกล้ที่พักพอดี

สำหรับพิกัด ร้านที่ต้องไปโดน มีตามนี้

  1. มะม่วงปั่น เดินมาจนเกือบสุดซอย มาทางตึก ​CTMA ฝั่งซ้ายจะเจอร้านนี้ก่อน แนะนำสั่งแบบ A1 หรือ A2 
  2. ไก่ทอด Hotstar อันนี้อร่อยจริง เข้มข้นมาก เข้าเนื้อ ไม่แข็ง ถัดมาจากร้านมะม่วง ชิ้นละ 20HK$
  3. หนวดปลาหมึกทอด จะอยู่ตรงหัวมุม อันนี้ก็ดี แต่ตอนนั้นคืออิ่มท้องแตกมาก กินไปได้นิดเดียว

เดินย่อยต่อ มีของช็อปเพียบเลย

จบทริปวันแรกด้วยความเหน็ดเหนื่อย ได้เวลาเข้าที่พัก ใช้เวลาเดิน 15 นาทีถึง

เริ่มต้นวันที่สอง แอดฝากกระเป๋าไว้ที่ ที่พักก่อน พี่เขาใจดีให้ฝากได้ ขากลับค่อยมาเอา

วันนี้แพลนของเราจะไปกินติ๋มซำกันที่ร้าน Tim Ho Wan > ไปไหว้พระกันที่วัดแชกงหมิว > ไปเดินเล่น ดูสตรีทอาร์ต > ไปเดินช็อป mong kong อีกรอบ > กลับที่พักไปเอากระเป๋าไปสนามบิน 

เริ่ม!!!

ตัวร้านอยู่ห่างจากที่พักประมาน 900 เมตร เดินไปโลด บรรยากาศระหว่างทาง ดีงามน่าถ่ายภาพ

ถึงแล้ว ร้านนี้คนไทยค่อนข้างเยอะ นิยมมากินกัน ก็อร่อยนะ แต่แอดว่าร้านวันแรกอร่อยกว่า หรือมันอาจจะเช้าอยู่

จากร้าน เราก็เดินต่อไปขึ้น MRT สถานี Shek Kip Mei ไปลง Kowloon Tong และเปลื่ยนสายไปสีฟ้า ไปลงสถานี Tai Wai ออกทางออก B ก็จะถึงวัดแชกงหมิว หรือวัดกังหันลม

เป็นวัดดังที่คนไทยนิยมมาไหว้ขอพรกัน เชื่อกันว่า ใครได้หมุนกังหันตามเข็มนาฬิกา 3 รอบ จะได้นำพาสิ่งที่ดี โชคลาภเข้าหาตัว และ ช่วยขจัดปัดเป่าสิ่งไม่ดีทั้งหลายออกไป 

เปิดให้ผู้เข้าชมไหว้สักการะขอพร ได้ตั้งแต่ 7.00 – 18.00 น.

Location : https://goo.gl/maps/rcqW2UuwBk12

จากสถานี Tai Wai ให้นั่งกลับมาสายสีแดง และลง สถานี central สภาพตอนนี้คือปวดขาขั้นสุดด. แต่ก็สนุกดี นานๆทีเนอะะ เอาให้คุ้ม มีเวลาแค่สองวันมันก็จะแน่นๆหน่อย

พอมาถึง ไม่รอช้าได้เวลาเติมพลัง เดินผ่านร้านนี้เห็นแขวนเป็ดอลังการน่ากิน จัดไปหนึ่งจาน คือร่อยมากกกกก แนะนำ ร้านอยู่ในซอยตรงข้าม cotton on

ย่านนี้จะมีถนนสตรีทอาร์ตอยู่ ไปเดินเล่นถ่ายรูปได้

ย่านนี้จะมีถนนสตรีทอาร์ตอยู่ ไปเดินเล่นถ่ายรูปได้

อันนี้แถม สำหรับสายโซเชียวที่จะต้องอัพรูปตลอดเวลา แนะนำให้ซื้อ pocket wifi มา จะได้ใช้เน็ตได้ตลอดเวลา แอดเช่าของ 4WIFI มา วันละ 280 บาท  ขากลับก็เอาเครื่องไปฝากคืนที่สนามบินได้